วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

ป้ายจราจร ขำๆน่ารักๆ โดย Clet Abraham ศิลปินชาวฝรั่งเศส

ป้ายขำขำ 2 
ป้ายจราจร ขำๆน่ารักๆ โดย Clet Abraham ศิลปินชาวฝรั่งเศส
ภาพป้ายสัญญาณจราจร ที่ถูกแต่งแต้มนี้เป็นผลงานฝีมือของศิลปินฝรั่งเศสนามว่า Clet Abraham โดยผลงาน Street Art ของคุณ Clet ได้นำสติกเกอร์มาแปะเติมลงในป้ายสัญญาณจราจรที่อยู่ตามถนน เพื่อสื่อความหมายไปในเชิงอื่นๆ ซึ่งแล้วแต่จินตนาการของแต่ละคนคนจะตีความหมายของภาพนั้นๆ ซึ่งคุณ Clet Abraham หวังว่าผลงานของเขาจะสร้างรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะให้กับคนที่เดินผ่านไปมา หรือกับคนที่ได้พบเห็นกับป้ายสัญญาณจราจรเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ได้ รู้สึกตลก หรือ ขำไปด้วยกับผลงานของคุณ Clet Abraham เลยสักนิดเดียวแถมคุณ Clet ยังโดนข้อหาทำลายทรัยพ์สินราชการ และถูกปรับเป็นเงิน 400 ยูโร อีกต่างหาก
ข้อมูลจาก เว็บไซต์เดลิเมล์
ป้ายขำขำ 4ป้ายขำขำ 3ป้ายขำขำ 1ป้ายขำขำ 5 ป้ายขำขำ 8 ป้ายขำขำ 7 ป้ายขำขำ 6

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

ลมยาง-การเติมลมยางสำคัญอย่างไร

ลมยาง 
ลมยาง-การเติมลมยางสำคัญอย่างไร
ยางรถยนต์ถือเป็นส่วนหนึ่งของรถที่มีความสำคัญมากที่สุด เพราะหากรถยนต์ไม่มีล้อ-ยาง การที่จะเคลื่อนที่ไปให้ถึงจุดหมายนั้นคงเป็นไปได้ยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้ เลย และ ยางรถมันจะสมบูรณ์อยู่ได้และทำงานได้ดีส่วนหนึ่งก็เพราะลมที่ถูกบรรจุอยู่ใน ยาง เราลองมาดูกันหน่อยสิว่า ลมยางนั้นสำคัญอย่างไร และเราจะใช้มันอย่างไรให้เกิดประโยชน์ และรักษายางรถของเราให้ใช้งานได้นานๆ
ความดันลมยาง ยางทุกเส้นต้องถูกเติมลมก่อนใช้งาน เพื่อลดแรงกระแทกระหว่างรถยนต์และพื้นถนนลมยางทุกเส้นจะอ่อนลงเมื่อใช้งานไป ระยะหนึ่งจึงควร เช็คและเติมลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละครั้ง การเติมลมยางควรเติมขณะที่ยางยังเย็นอยู่หรือวิ่งไม่เกิน 2 กม. ตรวจเช็คลมยางควรใช้ เกจ์วัดลมที่มาตรฐานความดันลมและการขับขี่ การเติมลมยางที่ถูกต้องตามกำหนดจะทำให้ดอกยางทุกส่วนสัมผัสผิวถนน ส่งผลให้ยางมีอายุการใช้งานตลอดอายุเพิ่มความนุ่มนวลและปลอดภัยขณะขับขี่ และยังช่วยให้คุณประหยัดค่าน้ำมันมากขึ้นด้วย
ลมยาง 3 
ข้อควรระวังในการเติมลมยาง
การเติมลมยางน้อยเกินไป อาจมีผลดีเรื่องการยึดเกาะถนนโดยเฉพาะเวลาเข้าโค้ง แต่ก็จะส่งผลร้ายให้แก้มยางมีการยืดและหดตัวมากกว่าปกติ ทำให้ยากเกิดความร้อนสูงมากส่งผลให้ยางร่อน หรือผ้าใบหักง่าย และดอกยางด้านข้างทั้งสอง สึกเร็วกว่าตอนกลาง
การเติมลมยางมากเกินไป จะส่งผลให้หน้ายางเกาะถนนได้ไม่ เต็มหน้ายาง ส่งผลให้รถมีโอกาสลื่นไถลเวลาเข้าโค้ง หรือ เมื่อเบรกหรือหยุดรถ นอกจากนี้การเติมลมมากเกินไปจะทำให้รถเกิดการกระเทือนมากกว่าปกติ เนื่องจากความยืดหยุ่นของยางลดลง ส่งผลให้โครงสร้างยางเสียหาย เนื่องจากผ้าใบตึงเครียดยางถูกบาดง่าย และดอกยางตอนกลางสึกเร็วกว่าด้านข้างทั้งสอง
การเติมลมยางนั้นควรเติมลมให้ยางทั้ง 4 เส้นเติมลมเท่ากัน หากเติมไม่เท่ากันอาจส่งผลให้รถยนต์เสียการควบคุมได้ง่ายเมื่อเบรกหยุด หรือเร่งระดับความเร็ว รวมถึงส่งผลให้ความสมดุลของล้อรถเสีย และยังทำให้ยางสึกไม่เรียบด้วย 
ควรปิดฝาจุ๊บลมตลอดเวลา ควรปิดฝาวาล์วยาง หรือฝาปิดจุ๊บลม ให้สนิทตลอดเวลาเพื่อป้องกัน เศษดิน ฝุ่น และความชื้น ซึมเข้าไปในยาง และป้องกันไม่ให้ลมซึมออกซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียต่อยางส่งผลให้อายุการใช้ งานของยางสั้นลง
การสลับยางรถยนต์ หากเราใช้ไปนานๆควรมีการสลับยางบ้าง เพื่อให้ยางรถยนต์นั้นมีการสึกของดอกยางที่เท่าๆกันทุกเส้น โดยปกติควรมีการสลับยางทุก 10,000 กม. และหากยาง ซ้าย-ขวา เกิดการสึกของดอกยางที่ไม่สม่ำเสมอกัน แนะนำให้นำรถเข้าตรวจเช็คศูนย์ถ่วงล้อ ตรวจสอบความสมดุลของล้อ ตลอดจนระบบช่วงล่างของรถ เพื่อความปลอดภัยของการขับขี่

เปิดตัว KIA Pro Cee’d GT ที่ Geneva Motor Show 2013

เปิดตัว KIA Pro Cee’d GT ที่ Geneva Motor Show 2013
KIA Pro Cee’d GT รถสปอร์ตเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่จากแดนกิมจิ ที่ทางบริษัทผู้ผลิตมีแผนจะเปิดตัวรถจริงในงาน Geneva Motor Show 2013 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ KIA Pro Ceed GT นั้นได้รับการปรับปรุงโฉมให้ ดูโฉบเฉี่ยว แบบรถสปอร์ต มากยิ่งขึ้น มีการปรับช่องดูดอากาศให้ใหญ่มากขึ้น และไฟ LED ที่ติดมากับชุดโคมไฟหน้า กันชนหลัง-กาบข้าง ก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวเร้าใจกว่าเดิม บวกกับล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว กับการปรับชุดช่วงล่างให้เตี้ยลงและมีความหนึบมากยิ่งขึ้น พร้อมจานเบรกหน้าขนาด 320 ม.ม. และด้านหลัง 260 ม.ม. และ ภายในห้องโดยสารของ KIA Pro Cee’d GT มาพร้อมแป้นเหยียบอลูมีเนียมแบบสปอร์ตและ เบาะสไตล์สปอร์ต จาก Recaro ในส่วนของเครื่องยนต์ KIA Pro Cee’d GT นั้นมาพร้อมกับขุมพลังขนาด 1.6 ลิตร และระบบเทอร์โบชาร์จ 200 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร ระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สมารถเร่งความเร็วจาก 0-100 ก.ม./ช.ม. ภายในเวลา 7.9 วินาที และคาดกันว่า KIA Pro Ceed GT จะถูกจัดจำหน่ายในยุโรป ช่วงเดือนพฤษภาคม 2013 และมีสนนราคาอยู่ที่ราวๆ 24,000 ยูโร
KIA Pro Cee'd GT 5 KIA Pro Cee'd GT 6
KIA Pro Cee'd GT 5 KIA Pro Cee'd GT 4 KIA Pro Cee'd GT 3

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

ยางหล่อดอก

ยางหล่อดอก (2) 
ยางหล่อดอก
ยางหล่อดอก คือยางเก่าหรือยางเปอร์เซ็นต์ซึ่งได้ถูกใช้งานแล้วโดยดอกยางสึกจากสภาพการ ขับขี่และถูกนำมาหล่อดอกใหม่ โดยการหล่อดอกยางใหม่มี 2 วิธี คือ การหล่อดอกแบบร้อน แบบอบด้วยความร้อน จะทำให้ส่วนประกอบของยางใหม่และยางเก่าสามารถผสานเป็นเนื้อเดียวกัน การหล่อดอกแบบเย็น โดยใช้เครื่องขูดยางเพื่อเจียรผิวหน้ายางให้เรียบเสมอกัน ด้วยระบบน้ำหล่อเย็น ที่จะช่วยรักษาผิวยาง ไม่ให้ไหม้จากการขูด ทำการแต่งซ่อมแผลหน้ายางที่ชำรุด และพ่น กาวยางน้ำ (Cement) ที่ โครงยาง เพื่อให้ลายดอกยางประสานกัน

อันตรายจากการใช้ยางหล่อดอก ที่ไม่ได้มาตรฐาน โครงสร้างยางซึ่งเป็นยางเก่าถูกใช้งานมานานและหมดสภาพก่อนที่จะถูกนำมาหลอดอกใหม่ ส่งผลให้ชั้นยางใหม่และเข็มขัดรัดหน้ายางไม่สมานกัน ยางหล่อดอกจะทำการถ่วงล้อ ให้สมดุลได้ยากและความไม่สมดุลของล้อ จะส่งผลให้เกิดอาการพวงมาลัยสั่นสะท้านยางสึกเร็วกว่าปกติ และระบบช่วงล่างเสียหายได้ ***รถที่ใช้ยางหล่อดอกไม่ควรขับเกิน 130 กม./ชม.

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

โฆษณาน่ารักๆของน้องหมา Volkswagen

โฆษณาน่ารักๆของน้องหมา Volkswagen
วันนี้ขอนำเสนอโฆษณาน่ารักๆของ Volkswagen ที่นำเอาน้องหมา มาเป็นตัวแทนของรถของ รถยนต์ โฟล์ค ที่จะมาแนะนำถึงสมรรถนะ ต่างๆของรถ มาดูกันว่าน้องหมา จะโชว์สมรรถนะของ Volkswagen อะไรบ้าง หากใครไม่เข้าใจ ลองดูใหม่อีกรอบนะ หรือ ถ้าไงก็ลองเลื่อนลงไปดูที่ด้านล่างว่าน้องหมาบอกอะไรกับเราบ้าง...^_^
v
v
v
  • 0.16 ออกตัวได้ดี เร่งความเร็วได้ในเวลาสั้นๆ
  • 0.17 เครื่องแรง ความเร็วสูง
  • 0.19 ช่วงล่างเป็นเลิศ เข้าโค้งได้ดี
  • 0.24 มีระบบช่วยเหลือ ในการจอดรถ
  • 0.46 สัญญาณกันขโมย
เท่าที่ดูออกมีเท่านี้เอง หากเพื่อนๆเห็น มากกว่านี้ก็บอกบอกกันด้วยนะ ^_^

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

วิธีการอ่านข้อมูลที่แก้มยางรถยนต์

วิธีการอ่านข้อมูลที่แก้มยางรถยนต์
ข้อมูลแก้มยาง
วิธีการอ่านข้อมูลที่แก้มยางรถยนต์
ที่ แก้มของยางรถยนต์จะบอกขนาดของยาง, ผู้ผลิต, รุ่น, อัตราสูงสุดของการเติมลม, ความสามารถในการรับน้ำหนัก, ความเร็วสูงสุดที่สามารถรับ(วิ่ง)ได้, วันที่ผลิต(สัปดาห์/ ปี ค.ศ.), และข้อความเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยต่างๆ ตัวอย่างเช่น P185/75 R14 82S DOT 0500
  • P หมายถึง ถูกออกแบบให้ใช้กับรถยนต์นั่ง (passenger car)
  • 185 หมายถึง หน้ากว้างของยาง (section width) ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นมิลลิเมตร
  • 75 หมายถึง ความกว้างของแก้มยาง มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบสัดส่วนกับหน้ากว้างของยาง
  • R หมายถึง เป็นยางเรเดียล ซึ่งยางเกือบทั้งหมดเป็นยางเรเดียลอยู่แล้ว ในบางโอกาสอาจจะเห็นอักษรตัวอื่น ซึ่งมีอยู่น้อยมาก เช่น D หรือ B ซึ่งแสดงถึงว่าเป็นยางแบบ bias ply tire (ห้ามใช้ยางแบบเรเดียล และ bias ply tire) ผสมกัน
  • 14 หมายถึง เส้นผ่าศูนย์กลางของกะทะล้อ มีหน่วยวัดเป็นนิ้ว
  • 82 หมายถึง ดรรชนีน้ำหนักบรรทุก (load index) ซึ่งกำหนด โดยผู้ผลิตยาง (Rubber Manufacturers Association)
  • S หมายถึง ความสามารถในการทำความเร็วสูงสุด (Tire's maximum speed rating)
    • Q ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 160 กม./ชม. (99 mph)
    • S ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 180 กม./ชม. (112 mph)
    • T ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 190 กม./ชม. (118 mph)
    • H ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 200 กม./ชม. (124 mph)
    • V ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 240 กม./ชม. (149 mph)
    • Z ความเร็วสูงสุดมากกว่า 240 กม./ชม. (149 mph)
      (ข้อ ควรระวัง อย่าเลือกใช้ยางที่ความสามารถในการทำความเร็วต่ำกว่าที่รถรุ่นนั้นๆกำหนด และอย่าใช้ยางที่ความสามารถในการทำความเร็วต่างกันใช้ร่วมในรถคันเดียวกัน)
    • 0500 หมายถึง วันที่ผลิต
      • ตัวเลขหลังตัวอักษร DOT เป็นเลข 3-4 หลัก จะบอกถึงวันที่ผลิต
      • ตัวเลข 2 ตัวแรก 05 บอกถึงสัปดาห์ที่ทำการผลิตในที่นี้คือ สัปดาห์ที่ 5 ของปี
      • ตัวเลข 2 ตัวหลัง 00 บอกถึงปีที่ผลิต ในที่นี้คือปี ค.ศ. 2000

New Aston Martin Rapide S แรงคู่ใจสายลับ เจมส์ บอนด์

Aston Martin Rapide S 
New Aston Martin Rapide S
ในที่สุดก็ถึงคราวของ Aston Martin รถยนต์หรูสุดแรงคู่ใจสายลับ เจมส์ บอนด์ สัญชาติอังกฤษคันนี้ โดย Aston Martin Rapide S แบบ 4 ประตู มาพร้อมกับชุดแต่งคาร์บอนที่สามารถเลือกเติมเข้ามาในการออกแบบได้ในส่วนของสมรรถนะของเครื่องยนต์นั้น Aston Martin Rapide S มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.0 ลิตร 550 แรงม้า ชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Touch tronic 2 มีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 620 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-96 ก.ม./ชม. ภายใน 4.7 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 305 ก.ม./ชม. รวมถึง และปล่อยมลพิษน้อยอีกด้วยเพียงแค่ 332 กรัม/ก.ม. ในส่วนของห้องโดยสาร Aston Martin Rapide S ให้การตกแต่งสไตล์สปอร์ตเข้มใช้โทน Piano black โดยนอกจากนี้ยังมีสไตล์แบบทูโทนให้เลือก โดยคราวนี้ Aston Martin Rapide S เน้นเรื่องความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเบาะหลังที่แยกนั่งได้อย่างอิสระ และสามารถปรับพับเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับวางสิ่งของสัมภาระต่างๆได้ ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมการขับขี่ Adaptive Damping System (ADS) โดยสามารถปรับให้สอดคล้องกับการขับขี่ได้ด้วย โดยมี 3 Mode ด้วยกัน ได้แก่ Normal, Sport และ Track ส่วนภายนอกตัวถังรถ Aston Martin Rapide S ได้มีการออกแบบให้ชุดรีดอากาศทางด้านหลังทั้งหมด ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ โดยทุกรุ่นมาพร้อมล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว
Aston Martin Rapide S 3 Aston Martin Rapide S 2

Aston Martin Rapide S 4 Aston Martin Rapide S 1 Aston Martin Rapide S 5

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

วีธีเลือกยางรถยนต์ - เลือกใช้ยางรถยนต์อย่างถูกวิธี

ยางรถยนต์ 2 
วีธีเลือกยางรถยนต์ - เลือกใช้ยางรถยนต์อย่างถูกวิธี
ยาง รถ ยนต์ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดอย่างหนึงในการใช้รถ เพราะยางรถยนต์เป็นส่วนเดียวของรถที่สัมผัสถูกพื้นผิวถนนและทำงานหนักในทุกๆ สภาพถนน ไม่ว่าสภาพถนนเปียก แห้ง ทางเรียบ หรือขรุขระ การเลือกยางรถยนต์จึงต้องเลือกให้ถูกต้องและเหมาะสม เพราะยางรถนั้นส่งผลถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่ รวมถึงการประหยัดพลังงาน และ ลดภาระการทำงานของเครื่อง และช่วยลดความเสียหายของระบบช่วงล่างรถยนต์ด้วย
วิธีการเลือกยางรถยนต์
  1. เลือกขนาดยาง (section width) และกระทะล้อ (tire's sidewall) ให้ถูกตรงตามที่กำหนดโดยโรงงานผู้ผลิตรถยนต์
  2. อายุยางต้องไม่เก่าจนเกินไป ดูจาก วันเดือนปีผลิตไม่ควรเกิน 6 เดือน
  3. เลือกยางที่รหัสความเร็ว (Speed Ratings) และน้ำหนักบรรทุก(load carrying capacity) ที่เหมาะสมกับรถ
  4. ถ่วงล้อทั้ง 4 ล้อ และควรตั้งศูนย์ล้อทั้ง 4 ล้อทุกครั้งที่เปลี่ยนยาง
  5. ใส่เปลี่ยนยางโดยช่างผู้มีความชำนาญ และ มีอุปกรณ์พร้อม
การเลือกลักษณะของดอกยางรถยนต์
ดอกยางแบบหมุนไปทางเดียว (Rotation)

ดอกยางแบบหมุนไปทางเดียว
ดอก ยางแบบหมุนไปทางเดียว มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำ และรักษาสมดุลของรถในช่วงความเร็วสูงได้อย่างยอดเยี่ยมมีประสิทธิภาพในการ ยึดเกาะ บนถนนมากกว่ารูปแบบแรก ดอกยางแบบหมุนไปทางเดียว นี้มักมีลูกศรเพื่อบอกทิศทางการหมุนของยางมา ด้วยเพื่อประโยชน์เมื่อ ต้องสลับยาง จำเป็นต้องดูทิศทางของลูกศรให้ถูกต้อง เพราะจะมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพและอายุของยางประเภทนี้ ลวดลายของดอกยางค่อนข้างมีแนวโน้มไปทางแนวสปอร์ต ยางหลายๆ รุ่นออกแบบดอกยางประเภทนี้ได้สวยงามจนสามารถเติมเต็มรถแต่งซิ่งให้สวยเตะตา ขึ้นมาอย่างถนัดใจ ที่สำคัญเหมาะกับ พวกนักซิ่งเท้าหนักทั้งหลายอย่างมาก
ดอกยางแบบสวนทาง (Dual)

dual
ดอก ยางแบบสวนทาง ค่อนข้างเป็นดอกละเอียด เน้นความนุ่มสบาย มีเสียงค่อนข้างเงียบสุดเมื่อสัมผัสพื้นถนน แต่ดอกยางประเภทนี้อาจไม่เหมาะกับนักขับที่เท้าหนักสัก เท่าไหร่ เพราะ ก็มักมีอาการโยนตัวของรถเป็นของแถมมาด้วย เวลาสลับยางที่แนะนำกันทุก 10,000 กิโลเมตร สามารถทำได้ง่าย เพราะยางสามารถสลับสับเปลี่ยนกันได้เลยทุกตำแหน่ง

ดอกยางแบบไม่สมมาตร (Asysimatic)

ไม่สมมาตร
ดอกยางแบบไม่สมมาตร ให้ความมั่นใจในการยึดเกาะ และรักษาสมดุลของรถในขณะโยนตัวเมื่อเข้าโค้งได้ดี สามารถลดและป้องกันอาการดื้อโค้งหรือหลุดโค้ง ลักษณะของดอกยาง นี้คือดอกยางด้านนอกและด้านในที่ไม่เท่ากัน ซึ่งเหมาะกับทางโค้งมากกว่าทางตรง

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

เบนซ์ NK นำเข้ารถใหม่ 5 รุ่นรวด


เบนซ์ NK นำเข้ารถใหม่ 5 รุ่นรวด
เบนซ์ NK เปิดแผน Revolution To The New Era พร้อมนำเข้ารถใหม่รุกตลาดไทยปี 2013 รวดเดียว 5 รุ่น มีรุ่นใดบ้าง มีอุปกรณ์เสริมใดบ้างไปชมกัน

ML250 CDI MY’13
 1. Mercedes Benz ML250 CDI MY’13 มาพร้อมไฟหน้าแบบ ILS (Intelligent Light System) หลังคาแก้ว Panoramic Glass Roof จอ Command Online ระบบ Keyless Entry พร้อมปุ่ม Push Start Button, พ่วงด้วยล้อแม็กซ์ลายใหม่ขอบ 21 นิ้ว และระบบช่วงล่างแบบ Air Suspension

cls 250 my 13 
2. Mercedes Benz CLS 250 MY’13 ที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งแบบ Designo Design Package ที่หรูหรา และให้ความรู้สึกถึงความสปอร์ต ด้วยภายในสีแดง-ดำ จอ Command Online และจอเรือนไมล์ New Telematics Color Scheme ระบบกุญแจอัจฉริยะ Keyless Entry พร้อมปุ่ม Push Start และก้านเปลี่ยนเกียร์ รวมถึงก้านไฟเลี้ยวดีไซน์ใหม่สำหรับปี 2013 เท่านั้น

E300 Hybrid
3. Mercedes Benz E300 Hybrid ที่นำเอาความเป็นดีเซลมาผสานกับเทคโลยีแบบไฮบริด ทำให้รถคันนี้มีอัตราการปล่อยมลพิษเพียงแค่ 109 กรัม/กม. พร้อมด้วยความประหยัดน้ำมันโดยใช้น้ำมันเพียง 23.2 กม./ลิตร

CLS 250CDI Shooting Brake
4. Mercedes Benz CLS 250CDI Shooting Brake ที่นำเอาความคลาสสิกยุค 60s มาผสมผสานกับความหรูหราทันสมัยของ CLS Class ได้อย่างลงตัว

e200 cdi
5. Mecedes New E200 CDI เครื่องยนต์ดีเซล ที่มาพร้อมกับชุดแต่งหรู AMG Sport Package รอบคัน หลังคาแก้วแบบ Panoramic Glass Roof พร้อมล้อแม็กซ์ AMG ขอบ 18 นิ้ว และถือเป็นอีกรุ่นที่ประหยัดน้ำมันโดยมันสามารถวิ่งได้ 23.55 กม./ลิตร พร้อมด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ 136 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุดถึง 360 นิวตันเมตร เลยทีเดียว

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

10 อันดับสุดยอดรถที่เร็วที่สุดในโลก 2012

10 อันดับสุดยอดรถที่เร็วที่สุดในโลก 2012

10. Porsche Carrera GT 



เครื่องยนต์ 10สูบ (V.10) 612 แรงม้า อัตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 209 ไมล์/ ชม. ราคาเปิดตัว $440,000


9. Lamborghini Murcielago LP640


เครื่องยนต์12สูบ (V.12) 640 แรงม้า อัตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 213 ไมล์/ ชม. ราคาเปิดตัว $430,000


8. Pagani Zonda F




เครื่องยนต์ Mercedes Benz M180 12สูบ (V.12) 650 แรงม้า อัตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 ไมล์/ ชม. ราคา $741,000


7. Jaguar XJ220

เครื่องยนต์ Twin Turbo 6 สูบ  542 แรงม้า อัตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 4.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 217 ไมล์/ ชม. ราคาเปิดตัว $345,000


6. Ferrari Enzo

เครื่องยนต์ 12 สูบ 660 แรงม้า ตัวถังทำจากอลูมินั่ม อัตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 217 ไมล์/ ชม. ราคาเปิดตัว $670,000


5. McLaren F1

เครื่องยนต์ BMW S70/2 60 Degree 12 สูบ 627 แรงม้า อัตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 ไมล์/ ชม. ราคาเปิดตัว $970,000


4. Saleen S7 Twin-Turbo

เครื่องยนต์ 8 สูบ Twin Turbo  750 แรงม้า ตัวถังทำจากอลูมินั่มทั้งหมด อัตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 248 ไมล์/ ชม. ราคาเปิดตัว $555,000



3. Koenigsegg CCX

เครื่องยนต์ 90 Degree 8 สูบ 806 แรงม้า อัตตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 ไมล์/ ชม. ราคาเปิดตัว $695,000


2. Bugatti Veyron

เครื่องยนต์ Narrow Angle 16 (w16) 1001 แรงม้า ตัวถังทำจากอลูมินั่ม อัตตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 253 ไมล์/ ชม. ราคาเปิดตัว $1,444,000


1. SSC Ultimate Aero
เครื่องยนต์ Twin-Turbo 8 สูบ  1183 แรงม้า อัตตราเร่ง 0-60 ระยะเวลา 2.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 257 ไมล์/ ชม. ราคาเปิดตัว $654,400

Porsche Cayenne Turbo S Storm 2013 รถเอนกประสงค์สไตล์สปอร์ต

Porsche Cayenne Turbo S storm 7
Porsche Cayenne Turbo S Storm 2013 รถเอนกประสงค์สไตล์สปอร์ต
ปอร์เช่ค่ายรถสุดหรูเปิดตัวรถเอนกประสงค์หรูหราที่มาพร้อมสมรรถนะสุดแรงอย่าง Porsche Cayenne Turbo S Storm 2013 ซึ่งเป็นการจับเอา Porsche Cayenne Turbo S มาปรับใหม่โดยเน้นเพิ่มสมรรถนะของรถให้สูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม พ่วงด้วยการออกแบบภายนอกที่ดูเร้าใจ โดยมี่การปรับจุดรับลมหน้าถูกขลับเป็นแบบดำด้าน รวมถึงกระจกมองข้าง และล้ออัลลอย ลาย Turbo II ขนาด 21 นิ้ว สำหรับ Porsche Cayenne Turbo S Storm นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.8 ลิตร 543 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดกว่า 750 นิวตันเมตร จากระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จคู่ โดยเจ้า Porsche Cayenne Turbo S Storm สมารถเร่งความเร็วจาก 0-100 ก.ม. ใช้เวลาแค่ 4.3 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 280 ก.ม./ช.ม. ส่วนภายในตกแต่งด้วยเบาะหนังสุดหรู นอกจากนี้ Porsche Cayenne Turbo S Storm มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ PDCC (Porsche Dynamic Chassis Control) และ PTV Plus (Porsche Torque Vectoring Plus) ด้วย

Porsche Cayenne Turbo S storm 2 Porsche Cayenne Turbo S storm 3

Porsche Cayenne Turbo S storm 6 Porsche Cayenne Turbo S storm 8 Porsche Cayenne Turbo S storm 8